ในกลุ่มคนรักการออกกำลังกายคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าภาวะ Overtraining คือภาวะที่เกิดจากการออกกำลังกายหนักเกินไป จนส่งผลให้ร่างกายฟื้นตัวไม่ทัน และไปถึงจุดต่อต้านที่ทำให้การออกกำลังกายส่งผลเป็นลบต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นอาการป่วย บาดเจ็บเรื้อรัง เบื่อหน่ายหรือท้อแท้ก็ตาม ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเช่นนี้ ก็มาจากทั้งโปรแกรมฝึกที่หนักเกินไปหรือใช้เทคนิคที่มากเกินไป เป็นต้น วันนี้เราจึงอยากชวนให้ทุกคนมารู้ถึง 4 วิธีผ่อนคลายเมื่อรู้ว่าร่างกายของตัวเองกำลังเผชิญกับภาวะ Overtraining กัน ซึ่งทุกคนสามารถทำตามได้ดังนี้
1.พักฟื้นร่างกายหรือพักผ่อนให้เต็มที่
เริ่มแรกเมื่อรู้ว่าร่างกายตกอยู่ในภาวะ Overtraining สิ่งที่ควรทำก็คือ การพักฟื้นร่างกายหรือพักผ่อนร่างกายให้เต็มที่ ทั้งนี้แนะนำให้หยุดออกกำลังกายหรือการลดน้ำหนักประมาณ 1 อาทิตย์ ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการเหนื่อยล้าที่เกิดจากภาวะการออกกำลังกายอย่างหนักได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญยังช่วยให้ร่างกายสามารถกลับมาออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่อีกครั้งด้วย
2.นวดผ่อนคลาย
การนวดผ่อนคลายมีส่วนช่วยให้ร่างกายที่อยู่ในภาวะ Overtraining กลับสู่ภาวะปกติได้เร็วเช่นกัน ซึ่งแนะนำให้ทุกคนที่เริ่มรู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในภาวะนี้ จัดเวลาให้ตัวเองประมาณ 1 สัปดาห์เพื่อทำการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ โดยสามารถหาวิธีการผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้ตามเหมาะสม ทั้งนี้การนวดแผนไทยหรือนวดน้ำมัน ก็ช่วยให้เกิดการผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน
3.ให้ความสำคัญในเรื่องโภชนาการ
ต้องเข้าใจกันก่อนว่าภาวะ Over Training ส่วนหนึ่งก็เกิดมาจากโภชนการที่ล้มเหลว เพราะบางคนจะให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายอย่างหนักและกินอาหารในปริมาณน้อย เพราะเชื่อว่าจะช่วยให้ร่างกายมีน้ำหนักที่ลดลงได้เร็ว แต่ในความเป็นจริงนั้น ร่างกายของคนเราต้องการอาหารและสารอาหารที่เพียงพอต่อการใช้ในการซ่อมแซมและฟื้นฟูร่างกาย โดยเฉพาะเมื่อคุณเป็นคนออกกำลังกายเป็นประจำ ก็ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องโภชนการให้ถูกต้อง ซึ่งวิธีนี้ยังช่วยผ่อนคลายร่างกายจากภาวะ Over Training ได้อีกด้วย
4.ลดความเข้มข้นในการออกกำลังกาย
เมื่ออยู่ในภาวะ Overtraining ก็ควรต้องลดความเข้มข้นในการออกกำลังกาย และไม่ควรดื้อดึงหรือฝืนออกกำลังกายหนักเหมือนเดิม ซึ่งการลดความเข้มข้นในการออกกำลังกาย จะเป็นการฟื้นฟูร่างกาย โดยที่ไม่ต้องงดการออกกำลังกายแต่อย่างใด ถือเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีนิสัยการออกกำลังกาย และไม่สามารถหยุดออกกำลังกายได้
ที่มา:sanook
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น